elizabethsfootprint.com

นิซา คินเซลา นักข่าวชื่อดัง จาก goal.com ได้ออกมาเปิดเผยว่า กลุ่มทุนซาอุมีเดีย กรุ๊ป ไม่ได้รับเลือกจาก ธนาคาร เรน ให้ไปต่อในการพิจารณาในรอบสุดท้าย สำหรับการลุ้นเข้ามาเป็นเจ้าของใหม่ของสโมสรเชลซี

โดยหลังจากที่ทาง โมฮัมเหม็ด อัลเคียไรจี นายทุนใหญ่ของกลุ่มทุนซาอุมีเดีย กรุ๊ป ทราบข่าวการไม่ได้รับเลือกในครั้งนี้ ก็ได้ออกมาแสดงความผิดหวังเป็นอย่างมาก และในความคิดเห็นส่วนตัวของเขา เขารู้สึกว่าไม่ได้รับคำอธิบายที่ชัดเจนจากทาง ธนาคาร เรน กับการตัดสินใจในครั้งนี้ โดย โมฮัมเหม็ด อัลเคียไรจี ก็มั่นใจในกลุ่มทุนของเขาว่า มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในด้านการบริหารจัดการทีมกีฬามาแล้ว รวมถึงพวกเขาก็ยังมีประสบการณ์ด้านการสร้างสนามกีฬาให้ประสบความสำเร็จมาแล้วอีกด้วย

นอกจากนี้ ทางกลุ่มทุนซาอุมีเดีย ยังได้ยื่นข้อเสนอต่างๆมากมาย ทั้งแผนงานการพัฒนาสโมสรที่ชัดเจน และยื่นข้อเสนอยอดเงินในการเทคโอเวอร์จำนวนกว่า 2,000 ล้านปอนด์ รวมถึงการที่พวกเขาพร้อมที่จะมอบเงินจำนวน 200 ล้านปอนด์ให้แก่ทางสโมสรเชลซีโดยตรง เพื่อเป็นการช่วยให้ทางสโมสรเชลซี ผ่านพ้นจากวิกฤตที่กำลังพบเจออย่างหนักอยู่ในตอนนี้

ทั้งนี้ ทาง นิซา คินเซลา ยังได้คาดการณ์ถึงสาเหตุของการไม่ได้ไปต่อของทางกลุ่มทุนซาอุมีเดีย น่าจะมาจากการที่จะต้องใช้เวลาในการพิสูจน์เพื่อยืนยันว่า กลุ่มทุนซาอุมีเดีย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทาง เจ้าของสโมสรนิวคลาสเซิล ซึ่งก็คือ เจ้าชาย โมฮาเหม็ด บิน ซัลมาน พระโอรสของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากทางพรีเมียร์ อังกฤษ จะมีกฎอยู่ว่า บุคคลคนหนึ่งห้ามเป็นเจ้าของสโมสรในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มากกว่า หนึ่งสโมสร ซึ่งในการพิสูจน์ในเรื่องนี้จะต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควร เพราะยังต้องมีกระบวนการในการตรวจสอบและมีขั้นตอนที่ยุ่งยากพอสมควร ยกตัวอย่างในตอนนี้มีการยื่นซื้อ สโมสรนิวคลาสเซิล  ในครั้งนั้น ก็ยังใช้เวลาตรวจสอบกินระยะเวลาไปเกือบ 1 ปี กว่าจะได้ข้อสรุป แต่ในส่วนของสโมสรเชลซี ด้วยสถานการณ์ที่ทางสโมสรต้องเผชิญอยู่ในตอนนี้ ไม่สามารถที่จะใช้ระยะเวลาที่ยาวนานในการตรวจสอบได้ ทางธนาคาร เรน ซึ่งเป็นตัวแทนที่ไปรับมอบหมายให้ดูแลในเรื่องนี้ จะต้องเร่งเพื่อหาข้อสรุปให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะทำให้การเงินของทางสโมสรกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง

แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า กลุ่มทุนซาอุมีเดีย กรุ๊ป จะหมดโอกาสในการได้เป็นเจ้าของสโมสรเชลซีแล้ว แต่ทางธนาคาร เรน ยังคงเปิดโอกาสในด้านอื่นๆ อยู่ อย่างในกรณีที่ทางสโมสรเชลซี ทราบเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า กลุ่มทุนรายใดที่ได้เข้ามาเป็นเจ้าของคนใหม่ต่อจาก เสี่ยหมี โรมัน อับราโมวิช ทางกลุ่มทุนซาอุมีเดีย สามารถที่จะเข้าไปร่วมทุนกับกลุ่มทุนดังกล่าวในรอบต่อๆ ไปได้

และมาจนถึงในตอนนี้ ทางธนาคาร เรน กรุ๊ป ตัวแทนของ เสี่ยหมี โรมัน อับราโมวิช ก็ยังไม่มีการประกาศออกมาอย่างชัดเจนถึงกลุ่มทุนได้เป็นตัวเต็งในการจะเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเชลซี แต่อย่างใด แต่ทาง นักข่าวชื่อดัง นิซา คินเซลา ก็ได้บอกว่า ทาง ครอบครัวริกเก็ตส์ ,กลุ่มของทอดด์ โบห์ลี และทาง เซอร์ มาร์ติน บรอฟตัน และลอร์ด เซบาสเตียน โค ก็ยังคงเป็นตัวเต็งอยู่ในตอนนี้

ส่วนทาง ดิ แอธเลติก สื่อของประเทศอังกฤษ ก็ได้รายงานว่า กลุ่มของนิค แคนดี้ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ ก็ไม่ได้ไปต่อในการลุ้นเป็นเจ้าของเชลซี เช่นกัน เช่นเดียวกันกับกลุ่มของ วูดดี้ จอห์นสัน เจ้าของทีม นิวยอร์ก เจ็ตส์ ซึ่งเป็นคนสนิทของ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา

ดิ แอธเลติก ได้รายงานว่า กลุ่มทุนที่จะได้ผ่านเพื่อพิจารณาในรอบต่อไป จะเป็นกลุ่มของ ทอดด์ โบห์ลี ที่ร่วมกับ โจนาธาน โกลด์สตีน และ ฮันส์ยอร์ก วีสส์  กลุ่มของ เซอร์ มาร์ติน บรอฟตัน ที่ ร่วมกับ ลอร์ด เซบาสเตียน โค ส่วนทางด้านครอบครัวริกเก็ตส์ ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะโดนแฟนบอลออกมาต่อต้านอย่างหนักจากการที่เหยียดเชื้อชาติ และเหยียดสีผิว ก็ยังได้ไปต่อในรอบนี้

แต่ก็ยังมีอีกสื่อที่มีความเห็นที่แตกต่างกัน ไฟแนนเชียล ไทมส์ สื่อของอังกฤษ ได้ตีข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ในกรณีของกลุ่มซาอุมีเดีย นอกเหนือจากเรื่องของระยะเวลาในการตรวจสอบแล้ว ในส่วนของเงินทุนที่จะเอามาเทคโอเวอร์สโมสรเชลซีนั้นคาดว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกู้มาก่อน รวมกับประสบการณ์ในด้านการกีฬาภายในกลุ่มของซาอุมีเดียนั้น ถ้าเทียบกับกลุ่มอื่นๆแล้ว ถือว่าน้อยกว่ากลุ่มอื่นอยู่ ซึ่งมันก็คือเหตุผลที่ทำให้ทางธนาคารเรน และสโมสรเชลซี ต้องตัดกลุ่มทุนซาอุมีเดียออกไป

ส่วนในด้านของ กลุ่มของ นิค แคนดี้ ก็ไม่ได้มีความคืบหน้าในการยื่นข้อเสนออะไรเลย ส่วนทางด้านครอบครัวริกเก็ตส์ ในตอนนี้กำลังถูกตรวจสอบอีเมลเกี่ยวกับเรื่องการเหยียดที่เป็นปัญหาอยู่อย่างหนัก ซึ่งทาง ไฟแนนเชียล ไทมส์ มองว่าโอกาสของครอบครัวริกเก็ตส์ที่จะเข้ามาเป็นเจ้าของเชลซีที่อยู่น้อยมาก ส่วนกลุ่มที่คาดว่าจะเป็นตัวเต็งคือกลุ่มของ ทอดด์ โบห์ลี เนื่องจากพวกเขามีประสบการณ์ในการทำทีมกีฬาที่เหนือกว่ากลุ่มอื่นๆ และยังมีประวัติที่ไม่คลุมเครือ